Headlines

ยอดผู้เรียนอาชีวะลดลงน่าตกใจ เลขาอาชีวะจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?

ยอดผู้เรียนอาชีวะลดลงน่าตกใจ เลขาอาชีวะจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้เสนอข่าวตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับจำนวนผู้เรียนอาชีวะลดลงจากเป้าหมายอย่างมากจนน่าตกใจ ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าเรียนแค่ 40% ปีการศึกษา 2567 ตั้งเป้ารับ ที่ 2.8 แสนคน แต่ตอนนี้ยอดผู้เรียนมาสมัครจริงแค่ 90,000 คน รวมสถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชนกว่า 900 แห่ง ทางเลขาธิการอาชีวะตั้งเป้าไว้ที่ 281,220 คน แบ่งเป็นอาชีวะรัฐ  209,841 คน และอาชีวะเอกชน 71,379 คน ปัจจุบันมีผู้สมัครแล้วประมาณ 90,000 คน คนคิดเป็นแค่ 40% บอกยังมีเวลาให้วิทยาลัยต่างๆเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อการรับนักศึกษาเพิ่มรับเพิ่มได้อีก ถึงแม้ใกล้จะเปิดภาคเรียนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ แล้ว  คนในวงการอาชีวะเมื่อได้ยินข่าวจากสื่อต่างๆ ทุกคนก็เกิดข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมยอดผู้เรียนถึงลดลงมากจนน่าตกใจ 

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.)

ทั้งนี้หากดูจากการประชาสัมพันธ์ถึงภารกิจผลงานของวิทยาลัยต่างๆของนักเรียนนักศึกษาจากการประกวด การแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องแล้วอาจยังไม่เป็นที่จูงใจให้ผู้เรียนสนใจที่จะเข้ามาเรียนต่อด้านวิชาชีพในสถานศึกษาของอาชีวศึกษา แม้ทางเลขาธิการอาชีวะจะมีสโลแกน “ระหว่างเรียนมีรายได้จบแล้วมีงานทำ” หรือ มีนโยบายจะปรับระบบแนะแนวใหม่ แต่เหตุใดจึงไม่สามารถเพิ่มยอดผู้เรียนได้เพิ่มขึ้น ผู้รับผิดชอบอาจจะอ้างเหตุผลว่าต้องเข้าใจว่าปัจจุบันนี้ยอดผู้เรียนลดลงก็อาจจะจริงส่วนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เหตุนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ควรที่ทบทวนดูว่าได้ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้อย่างจริงจังมากน้อยขนาดไหน ติดขัดประการใด หรือต้องเร่งทำวิเคราะห์วิจัยถึงมูลเหตุที่แท้จริงของยอดผู้เรียนไม่เป็นไปตามเป้าเกิดจากสาเหตุใดบ้าง เช่น สถานศึกษามีความพร้อมและได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองหรือไม่หรือผลสัมฤทธิ์คุณภาพของผู้จบอาชีวศึกษาเป็นที่ยอมรับของสถานประกอบการหรือของผู้ปกครองได้จริงหรือ  รวมถึงการพัฒนาหลักสูตร ครู บุคลากร ห้องเรียนห้องปฏิบัติการ ครุภัณฑ์ การเปิดสอนสาขาที่ตรงความต้องการ

รวมไปถึงการบริหารจัดการของสถาบันการอาชีวศึกษาซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ 23 แห่งได้มีบทบาทในการสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชุมชนว่าเรียนอาชีวะระหว่างเรียนมีรายได้มีงานทำสามารถพิสูจน์ได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้คงฝากให้เลขาธิการอาชีวศึกษาได้ติดตามและเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง  ก่อนจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้ อย่าทำแค่การประชาสัมพันธ์สร้างภาพที่ใช้งบ ประมาณจำนวนมาก แต่ได้ผลน้อย อย่างที่เห็น ซึ่งไม่สามารถที่จะลงลึกหรือเข้าถึงกลุ่มนักเรียน ผู้ปกครอง สถานประกอบการ หรือประชาชนทั่วไปให้เกิดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจสมัครเรียนได้ จำนวนผู้เรียนในปีการศึกษา 2567 นี้ ยอดผู้มาสมัครจึงลดลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งจะส่งผลกระทบในการผลิตพัฒนากำลังคนอาชีวะเพื่อพัฒนาประเทศตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะในสาขาวิชาที่ขาดแคลน และส่งผลกระทบต่องบประมาณที่จัดสรรให้กับสถานศึกษาในการบริหาร ไม่ว่าเป็นเรื่องของค่าสาธารณูปโภค ค่าตอบแทน ค่าจ้างครูบุคลากร ค่าวัสดุ ฝึกการจัดซื้อครุภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผู้เรียนอาชีวะเป็นลูกโซ่